ความแตกต่างของ เหงือกสุขภาพดี เหงือกอักเสบ และปริทันต์อักเสบ : มองในมุมอาการทางคลินิก
สุขภาพเหงือกเป็นพื้นฐานสำคัญของสุขภาพช่องปากทั้งหมด เพราะมีผลโดยตรงต่อการเก็บรักษาฟัน การเคี้ยวอาหาร และสุขภาพร่างกายโดยรวม แต่สิ่งที่หลายคนไม่ทราบคือ สภาวะเหงือกแต่ละระดับ—เหงือกสุขภาพดี เหงือกอักเสบ และปริทันต์อักเสบ—มีความแตกต่างกันอย่างมาก ทั้งทางคลินิกและระดับจุลินทรีย์ใต้เหงือก บทความนี้จะช่วยให้คุณแยกแยะทั้งสามสภาวะได้ง่ายขึ้น เพื่อจะได้ดูแลเหงือกของตัวเองได้อย่างถูกต้องตั้งแต่ต้น

1) ความแตกต่างทางคลินิก: จะรู้ได้อย่างไรว่าเหงือกเราอยู่ในขั้นไหน?
ทันตแพทย์ใช้เกณฑ์สำคัญ 3 อย่างในการประเมินสุขภาพเหงือก ได้แก่
- ความลึกของร่องเหงือก (Probing Depth: PD)
- การสูญเสียการยึดเกาะของฟัน (Clinical Attachment Loss: CAL)
- เลือดออกเมื่อวัดเหงือก (Bleeding on Probing: BOP)
ซึ่งแต่ละสภาวะมีลักษณะเฉพาะดังนี้:
✅ เหงือกสุขภาพดี (Health)
ลักษณะทางคลินิก
- ไม่มีการสูญเสียการยึดเกาะของฟัน
- ความลึกของร่องเหงือกน้อยกว่า 3 มม.
- เลือดออกขณะตรวจน้อยกว่า 10% ของตำแหน่งทั้งหมด
สัญญาณที่มองเห็นได้
- เหงือกสีชมพู
- แน่นกระชับ ไม่บวม
- ไม่เลือดออกเวลาแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟัน
⚠️ เหงือกอักเสบ (Gingivitis)
ลักษณะทางคลินิก
- เหงือกแดง บวม และเลือดออกง่าย
- ความลึกของร่องเหงือกอาจเพิ่มขึ้น แต่ “ยังไม่มีการละลายของกระดูก”
- ไม่มีการสูญเสียการยึดเกาะของฟัน
- เลือดออกขณะตรวจมากกว่า 10%
จุดสำคัญที่ควรรู้
- เหงือกอักเสบเป็นภาวะที่ “ย้อนกลับได้”
- หากได้รับการขูดหินปูน–เกลารากฟัน และปรับการดูแลช่องปาก เหงือกสามารถกลับมาสุขภาพดีได้
❗ ปริทันต์อักเสบ (Periodontitis)
ลักษณะทางคลินิก
- มีการสูญเสียการยึดเกาะของฟัน (CAL ≥ 4 มม.)
- ความลึกของร่องเหงือกมากกว่า 4 มม. หลายจุดร่วมกับ “การละลายของกระดูก”
- มีเลือดออกจำนวนมากขณะตรวจ บางกรณีพบหนองในร่องเหงือก
ผลที่อาจตามมา
- ฟันโยก
- ฟันเคลื่อนจากตำแหน่งเดิม
- เหงือกร่น
- มีกลิ่นปากเรื้อรัง
- หากไม่ได้รักษา อาจสูญเสียฟันได้ในที่สุด
✨ บทส่งท้าย
การแยกแยะสภาวะเหงือกตั้งแต่ระยะเริ่มต้นเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเหงือกอักเสบสามารถรักษาให้หายได้ แต่หากปล่อยให้ลุกลามไปสู่ปริทันต์อักเสบ จะเกิดการทำลายกระดูกและเนื้อเยื่อยึดฟันซึ่งไม่สามารถย้อนกลับได้
ถ้าคุณพบว่าเหงือกมีเลือดออก บวม หรือผิดปกติ ควรพบ ทันตแพทย์เฉพาะทางปริทันตวิทยา เพื่อประเมินและรักษาอย่างเหมาะสมตั้งแต่เนิ่น ๆ
บทความที่เกี่ยวข้อง

การรักษาโรคปริทันต์อักเสบ คืออะไร?
โรคปริทันต์อักเสบคือสาเหตุสำคัญของฟันโยกและการสูญเสียฟัน การรักษาที่ถูกต้องตั้งแต่ระยะแรกช่วยควบคุมโรคและเก็บฟันไว้ได้นาน

โรคเหงือกอักเสบคืออะไร?
โรคเหงือกอักเสบ —ปัญหาที่รักษาได้ง่ายหากเริ่มต้นเร็ว แต่หากปล่อยไว้ อาจลุกลามจนฟันโยกและสูญเสียฟันได้จริง

โรคเหงือกอักเสบ/โรคปริทันต์อักเสบ ทำไมถึงมีผลกระทบทั้งร่างกาย?
เพราะมันไม่ใช่แค่โรคในช่องปาก แต่เป็น “โรคอักเสบเรื้อรังของทั้งร่างกาย” เมื่อเหงือกเกิดการอักเสบ เชื้อแบคทีเรียและสารอักเสบสามารถเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เกิดการอักเสบของร่างกาย ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่เชื่อมโยงเหงือกกับโรคเรื้อรังหลายระบบ