โรคเหงือก โรคปริทันต์

ความแตกต่างของ เหงือกสุขภาพดี เหงือกอักเสบ และปริทันต์อักเสบ : มองในมุมอาการทางคลินิก

สุขภาพเหงือกเป็นพื้นฐานสำคัญของสุขภาพช่องปากทั้งหมด เพราะมีผลโดยตรงต่อการเก็บรักษาฟัน การเคี้ยวอาหาร และสุขภาพร่างกายโดยรวม แต่สิ่งที่หลายคนไม่ทราบคือ สภาวะเหงือกแต่ละระดับ—เหงือกสุขภาพดี เหงือกอักเสบ และปริทันต์อักเสบ—มีความแตกต่างกันอย่างมาก ทั้งทางคลินิกและระดับจุลินทรีย์ใต้เหงือก บทความนี้จะช่วยให้คุณแยกแยะทั้งสามสภาวะได้ง่ายขึ้น เพื่อจะได้ดูแลเหงือกของตัวเองได้อย่างถูกต้องตั้งแต่ต้น

รองศาสตราจารย์ ทพญ.มุทิตา ว่องสุวรรณเลิศ (หมอโอ๊ะ)
2025-12-11
17 วันที่แล้ว
43
ความแตกต่างของ เหงือกสุขภาพดี เหงือกอักเสบ และปริทันต์อักเสบ : มองในมุมอาการทางคลินิก

1) ความแตกต่างทางคลินิก: จะรู้ได้อย่างไรว่าเหงือกเราอยู่ในขั้นไหน?

ทันตแพทย์ใช้เกณฑ์สำคัญ 3 อย่างในการประเมินสุขภาพเหงือก ได้แก่

  • ความลึกของร่องเหงือก (Probing Depth: PD)
  • การสูญเสียการยึดเกาะของฟัน (Clinical Attachment Loss: CAL)
  • เลือดออกเมื่อวัดเหงือก (Bleeding on Probing: BOP)

ซึ่งแต่ละสภาวะมีลักษณะเฉพาะดังนี้:

✅ เหงือกสุขภาพดี (Health)

ลักษณะทางคลินิก

  • ไม่มีการสูญเสียการยึดเกาะของฟัน
  • ความลึกของร่องเหงือกน้อยกว่า 3 มม.
  • เลือดออกขณะตรวจน้อยกว่า 10% ของตำแหน่งทั้งหมด

สัญญาณที่มองเห็นได้

  • เหงือกสีชมพู
  • แน่นกระชับ ไม่บวม
  • ไม่เลือดออกเวลาแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟัน

⚠️ เหงือกอักเสบ (Gingivitis)

ลักษณะทางคลินิก

  • เหงือกแดง บวม และเลือดออกง่าย
  • ความลึกของร่องเหงือกอาจเพิ่มขึ้น แต่ “ยังไม่มีการละลายของกระดูก”
  • ไม่มีการสูญเสียการยึดเกาะของฟัน
  • เลือดออกขณะตรวจมากกว่า 10%

จุดสำคัญที่ควรรู้

  • เหงือกอักเสบเป็นภาวะที่ “ย้อนกลับได้”
  • หากได้รับการขูดหินปูน–เกลารากฟัน และปรับการดูแลช่องปาก เหงือกสามารถกลับมาสุขภาพดีได้

❗ ปริทันต์อักเสบ (Periodontitis)

ลักษณะทางคลินิก

  • มีการสูญเสียการยึดเกาะของฟัน (CAL ≥ 4 มม.)
  • ความลึกของร่องเหงือกมากกว่า 4 มม. หลายจุดร่วมกับ “การละลายของกระดูก”
  • มีเลือดออกจำนวนมากขณะตรวจ บางกรณีพบหนองในร่องเหงือก

ผลที่อาจตามมา

  • ฟันโยก
  • ฟันเคลื่อนจากตำแหน่งเดิม
  • เหงือกร่น
  • มีกลิ่นปากเรื้อรัง
  • หากไม่ได้รักษา อาจสูญเสียฟันได้ในที่สุด

  ✨ บทส่งท้าย

การแยกแยะสภาวะเหงือกตั้งแต่ระยะเริ่มต้นเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเหงือกอักเสบสามารถรักษาให้หายได้ แต่หากปล่อยให้ลุกลามไปสู่ปริทันต์อักเสบ จะเกิดการทำลายกระดูกและเนื้อเยื่อยึดฟันซึ่งไม่สามารถย้อนกลับได้

ถ้าคุณพบว่าเหงือกมีเลือดออก บวม หรือผิดปกติ ควรพบ ทันตแพทย์เฉพาะทางปริทันตวิทยา เพื่อประเมินและรักษาอย่างเหมาะสมตั้งแต่เนิ่น ๆ      

แท็กที่เกี่ยวข้อง
โรคเหงือก

บทความที่เกี่ยวข้อง

 การรักษาโรคปริทันต์อักเสบ คืออะไร?
โรคเหงือก โรคปริทันต์

การรักษาโรคปริทันต์อักเสบ คืออะไร?

โรคปริทันต์อักเสบคือสาเหตุสำคัญของฟันโยกและการสูญเสียฟัน การรักษาที่ถูกต้องตั้งแต่ระยะแรกช่วยควบคุมโรคและเก็บฟันไว้ได้นาน

โรคเหงือกอักเสบคืออะไร?
โรคเหงือก โรคปริทันต์

โรคเหงือกอักเสบคืออะไร?

โรคเหงือกอักเสบ —ปัญหาที่รักษาได้ง่ายหากเริ่มต้นเร็ว แต่หากปล่อยไว้ อาจลุกลามจนฟันโยกและสูญเสียฟันได้จริง

โรคเหงือกอักเสบ/โรคปริทันต์อักเสบ ทำไมถึงมีผลกระทบทั้งร่างกาย?
โรคเหงือก โรคปริทันต์

โรคเหงือกอักเสบ/โรคปริทันต์อักเสบ ทำไมถึงมีผลกระทบทั้งร่างกาย?

เพราะมันไม่ใช่แค่โรคในช่องปาก แต่เป็น “โรคอักเสบเรื้อรังของทั้งร่างกาย” เมื่อเหงือกเกิดการอักเสบ เชื้อแบคทีเรียและสารอักเสบสามารถเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เกิดการอักเสบของร่างกาย ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่เชื่อมโยงเหงือกกับโรคเรื้อรังหลายระบบ