ทำไมเหงือกอักเสบ…แต่แปรงฟันแล้วไม่เลือดออก?
เหงือกอักเสบอาจไม่แสดงอาการเลือดออกเสมอไป บทความนี้อธิบายสาเหตุ เหตุใดจึงยังเสี่ยง และควรตรวจสุขภาพเหงือกเมื่อไร เพื่อป้องกันปริทันต์อักเสบ

🔍 ทำไมเหงือกอักเสบ…แต่แปรงฟันแล้วไม่เลือดออก?
โดยทั่วไป เลือดออกเวลาแปรงฟัน มักเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคเหงือกอักเสบ แต่ในบางกรณี แม้จะเป็น เหงือกอักเสบ กลับ ไม่มีเลือดออก ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
1️⃣ การอักเสบยังอยู่ในระยะเริ่มต้น
- เหงือกอาจเริ่มบวม แดงเล็กน้อย
- หลอดเลือดยังไม่เปราะหรือแตกง่าย
- จึงยังไม่เกิดเลือดออกขณะแปรงฟัน
👉 ระยะนี้ถือว่า ยังกลับเป็นปกติได้ง่ายมาก หากได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี
2️⃣ แปรงฟันเบา หรือแปรงไม่โดยบริเวณที่มีการอักเสบ
- ผู้ป่วยหลายคนรู้สึกระคายเคือง จึงแปรงเบา
- หรือหลีกเลี่ยงไม่แปรงโดนขอบเหงือกจริง ๆ
👉 เลือดอาจไม่ออก แต่ เชื้อแบคทีเรียและคราบยังคงสะสมอยู่
3️⃣ มีปัจจัยที่กดอาการอักเสบ
เช่น
- การสูบบุหรี่ (นิโคตินทำให้หลอดเลือดหดตัว → เลือดออกน้อย)
- การใช้ยาบางชนิด ที่มีผลต่อหลอดเลือดหรือการอักเสบ
👉 อาการภายนอกดูน้อยลง แต่ โรคยังดำเนินอยู่
4️⃣ เป็นเหงือกอักเสบชนิดเรื้อรัง
- อาการไม่รุนแรง
- ไม่มีอาการเจ็บหรือเลือดออกชัดเจน
- แต่มีคราบจุลินทรีย์และหินปูนสะสมต่อเนื่อง
👉 กลุ่มนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะพัฒนาเป็น ปริทันต์อักเสบแบบเงียบ โดยที่ผู้ป่วยไม่รู้ตัว
⚠️ สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจ
- การไม่มีเลือดออก ไม่ได้ยืนยันว่าเหงือกสุขภาพดี
- การมีเลือดออก = มีการอักเสบแน่นอน
เลือดออกจึงเป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจน แต่การไม่เลือดออก ไม่ได้แปลว่าปลอดภัยเสมอไป
🦷 แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นเหงือกอักเสบหรือไม่?
จำเป็นต้องอาศัยการตรวจโดยทันตแพทย์ เช่น
- ตรวจสีและลักษณะของเหงือก
- วัดความลึกของร่องเหงือก
- ตรวจคราบและหินปูนใต้เหงือก
- ตรวจเลือดออกขณะใช้เครื่องมือ (Bleeding on Probing)
📌 ในทางคลินิก พบได้บ่อยว่า ไม่เลือดออกตอนแปรงฟัน แต่เลือดออกตอนตรวจ
🩵 สรุปจากทันตแพทย์เฉพาะทางโรคเหงือก
- เหงือกอักเสบ อาจไม่มีเลือดออกได้
- แต่ยังคงเป็นโรคที่ควรได้รับการดูแลและรักษา
- ยิ่งตรวจพบเร็ว → ยิ่งป้องกันการลุกลามเป็นปริทันต์อักเสบได้ง่าย
หากคุณสงสัยว่า
เหงือกดูปกติ แต่จริง ๆ เป็นโรคหรือเปล่า?
การตรวจสุขภาพเหงือกอย่างละเอียดกับทันตแพทย์เฉพาะทาง คือคำตอบที่ชัดเจนและปลอดภัยที่สุดค่ะ 💙🦷
บทความที่เกี่ยวข้อง

ความสัมพันธ์ระหว่างเหงือกอักเสบและปริทันต์อักเสบ: จากเหงือกอักเสบเล็กน้อย สู่การสูญเสียฟันโดยไม่รู้ตัว
โรคปริทันต์เป็นโรคเหงือกที่หลายคนมองข้าม เพราะในระยะเริ่มต้น “ไม่ค่อยมีอาการเจ็บ” แต่จริง ๆ แล้วมีความซับซ้อนมาก และสามารถลุกลามจนทำให้ฟันโยกหรือฟันหลุดได้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง

ฟันโยกเกิดจากอะไร?
ฟันโยกไม่ใช่เรื่องปกติ แต่อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคปริทันต์อักเสบ บทความนี้ช่วยให้เข้าใจสาเหตุ อาการ และแนวทางรักษาก่อนสูญเสียฟัน

ความแตกต่างของ เหงือกสุขภาพดี เหงือกอักเสบ และปริทันต์อักเสบ : ในด้าน “จุลินทรีย์ใต้เหงือก”
โรคเหงือกทุกชนิดมี “สาเหตุหลักมาจากเชื้อจุลินทรีย์ (แบคทีเรีย)” ที่สะสมอยู่บริเวณร่องเหงือก แบคทีเรียเหล่านี้สร้างไบโอฟิล์ม (คราบจุลินทรีย์) ที่ยึดเกาะแน่น ซึ่งไม่สามารถกำจัดออกได้ด้วยการแปรงฟันเพียงอย่างเดียว เมื่อจุลินทรีย์เริ่มเสียสมดุล—ไม่ว่าจะเพิ่มจำนวนมากเกินไป หรือมีสัดส่วนของแบคทีเรียก่อโรคเพิ่มขึ้น—ร่างกายจะตอบสนองด้วยการอักเสบ เหงือกเริ่มบวมแดง และหากปล่อยไว้นาน กระดูกที่รองรับฟันจะถูกทำลายจนฟันเริ่มโยก ดังนั้น จุลินทรีย์ใต้เหงือก (Subgingival Microbiome) คือ “ตัวชี้วัดสำคัญที่สุด” ว่าเหงือกของคุณสุขภาพดีหรือกำลังมีความเสี่ยงในการเกิดโรคปริทันต์อักเสบ