🔎 สาเหตุที่ต้องถอนฟันหรือทำศัลยกรรมช่องปาก
ฟันผุลึกหรือแตกหักมากเกินกว่าจะรักษาได้
ฟันโยกจากโรคปริทันต์อักเสบรุนแรง
ฟันคุดหรือฟันเกินที่ก่อให้เกิดปัญหา
การเตรียมช่องปากสำหรับการจัดฟันหรือใส่รากฟันเทียม
ซีสต์หรือฝีภายในช่องปากที่ต้องรักษาด้วยการผ่าตัด
✅ รายละเอียดการรักษา
การถอนฟัน (Tooth Extraction)
เป็นการนำฟันที่ไม่สามารถเก็บรักษาไว้ได้ออกจากช่องปาก เช่น ฟันผุลึก ฟันโยก หรือฟันที่เป็นปัญหาต่อการรักษาอื่น การถอนฟันทำโดยใช้เทคนิคที่ปลอดภัย เจ็บน้อย และดูแลการหายของแผลอย่างใกล้ชิด
การผ่าฟันคุด (Surgical Removal of Impacted Tooth)
ฟันคุด โดยเฉพาะฟันกรามซี่สุดท้าย มักขึ้นไม่ตรงหรือไม่พ้นเหงือก ทำให้เกิดอาการปวด บวม หรือการอักเสบ การผ่าฟันคุดต้องอาศัยการเปิดเหงือกและบางครั้งการกรอกระดูก เพื่อเอาฟันออกอย่างปลอดภัยและลดโอกาสเกิดปัญหาในอนาคต
การผ่าตัดตกแต่งเหงือกและกระดูก (Pre-prosthetic & Ridge Surgery)
ใช้สำหรับเตรียมสภาพเหงือกและกระดูกก่อนใส่ฟันเทียมหรือรากฟันเทียม เพื่อให้ใส่ได้พอดีและมั่นคง
การผ่าตัดปลูกกระดูก (Bone Grafting / Sinus Lift)
สำหรับผู้ที่สูญเสียกระดูกบริเวณขากรรไกรมากเกินไป สามารถเสริมกระดูกใหม่เพื่อรองรับการทำรากฟันเทียมในอนาคต
รายละเอียดการตรวจและการดูแล
ตรวจสุขภาพช่องปาก (Oral Examination)
ตรวจฟัน เหงือก เยื่อบุช่องปาก ข้อต่อขากรรไกร และการสบฟัน
ประเมินความเสี่ยงและวางแผนการรักษา (Risk Assessment & Treatment Planning)
ประเมินคราบจุลินทรีย์ การอักเสบของเหงือก และปัจจัยเสี่ยงเฉพาะบุคคล เช่น การสูบบุหรี่หรือโรคประจำตัว
เอกซเรย์ฟัน (Dental Radiographs)
ใช้เพื่อตรวจหาฟันผุที่มองไม่เห็น รอยโรคใต้เหงือก หรือการสูญเสียกระดูกปริทันต์
ขูดหินปูนและเกลารากฟัน (Scaling and Root Planing)
กำจัดแผ่นครบจุลินทรีย์ และคราบหินปูนที่สะสมบริเวณขอบเหงือกและในร่องเหงือก ช่วยให้เหงือกสุขภาพดี ลดการอักเสบ
การทาฟลูออไรด์ (Fluoride Therapy)
เสริมความแข็งแรงให้ฟัน ป้องกันฟันผุ โดยเฉพาะในเด็กและผู้ที่มีความเสี่ยงสูง
การให้คำแนะนำด้านสุขภาพช่องปาก (Oral Hygiene Instruction)
สอนวิธีแปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟัน เลือกอุปกรณ์เสริมที่เหมาะสม เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต
การตรวจมะเร็งช่องปาก (Oral Cancer Screening)
ตรวจหาความผิดปกติของเยื่อบุช่องปาก เพื่อค้นหาความเสี่ยงในระยะแรกเริ่ม
แนะนำความถี่ในการตรวจที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
เช่น ทุก 6 เดือน สำหรับผู้ที่มีโรคเหงือก หรือทุก 12 เดือนสำหรับผู้ที่สุขภาพปากดี
การติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้แน่ใจว่าการรักษาและการป้องกันได้ผล
การปรับคำแนะนำตามวัยและสภาวะสุขภาพ
เช่น เด็ก วัยทำงาน หรือผู้สูงอายุ
✨ การดูแลพิเศษ
แนะนำความถี่ในการตรวจที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
เช่น ทุก 6 เดือน สำหรับผู้ที่มีโรคเหงือก หรือทุก 12 เดือนสำหรับผู้ที่สุขภาพปากดี
การติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้แน่ใจว่าการรักษาและการป้องกันได้ผล
การปรับคำแนะนำตามวัยและสภาวะสุขภาพ
เช่น เด็ก วัยทำงาน หรือผู้สูงอายุ