การรักษาโรคเหงือก (ปริทันต์วิทยา –
Periodontics /Periodontal treatment)

ดูแลสุขภาพเหงือกและรากฟันอย่างครบวงจร

ปริทันต์วิทยา (Periodontics) คือ สาขาทันตกรรมที่มุ่งเน้นการดูแลรักษาเหงือกและเนื้อเยื่อรอบฟัน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยยึดฟันให้อยู่มั่นคง หากเหงือกและกระดูกที่รองรับฟันถูกทำลาย ฟันก็อาจโยกหรือหลุดร่วงได้

การรักษาโรคเหงือก (ปริทันต์วิทยา – <br>Periodontics /Periodontal treatment)

โรคเหงือก แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่

โรคเหงือกอักเสบ (Gingivitis)

เกิดจากคราบจุลินทรีย์สะสมที่ขอบเหงือกและในร่องเหงือก ทำให้เหงือกมีอาการบวม แดง เลือดออกง่ายเวลาแปรงฟัน

โรคเหงือกอักเสบ (Gingivitis)

โรคปริทันต์อักเสบ (Periodontitis)

เป็นระยะที่โรคลุกลามจากเหงือกอักเสบ เหงือกมีอาการอักเสบรุนแรง บวม แดง มีเลือดออกง่าย อาจมีหนอง

โรคปริทันต์อักเสบ (Periodontitis)

อาการโรคเหงือก

เหงือกบวม แดง หรือมีเลือดออกเวลาแปรงฟัน/ใช้ไหมขัดฟัน

มีกลิ่นปากเรื้อรัง

เหงือกร่น ฟันดูยาวขึ้น

ฟันเคลื่อนจากตำแหน่งเดิม

ฟันโยกหรือมีช่องว่างระหว่างฟันเพิ่มขึ้น

✅ รายละเอียดการรักษา

การขูดหินปูนและเกลารากฟันเพื่อรักษาโรคเหงือกอักเสบ (Scaling and Root Planing – Gingivitis)

โรคเหงือกอักเสบ เกิดจากคราบจุลินทรีย์และหินปูนสะสมบริเวณขอบเหงือก ทำให้เหงือกบวม แดง และมีเลือดออกง่าย การขูดหินปูนและเกลารากฟันช่วยกำจัดคราบสะสมเหล่านี้ ทำให้เหงือกกลับมาสุขภาพดี และช่วยป้องกันการเป็นโรคปริทันต์อักเสบ

การขูดหินปูนและเกลารากฟันเพื่อรักษาโรคปริทันต์อักเสบ (Scaling and Root Planing – Periodontitis)

ในผู้ป่วยที่โรคเหงือกลุกลามจนกระดูกเริ่มถูกทำลาย หินปูนและเชื้อโรคมักสะสมลึกใต้เหงือก การรักษาจะต้องทำการขูดหินปูนและเกลารากฟันลึกเพื่อลดการอักเสบและควบคุมการลุกลามของโรค ซึ่งช่วยรักษาฟันให้อยู่กับเราได้นานขึ้น

การผ่าตัดเหงือกตกแต่งกระดูกเพื่อรักษาโรคปริทันต์อักเสบ (Flap Surgery, Osseous Surgery)

กรณีที่การอักเสบและหินปูนอยู่ลึกเกินกว่าจะทำความสะอาดได้ด้วยวิธีขูดหินปูนและเกลารากฟัน ทันตแพทย์อาจแนะนำการผ่าตัดเหงือก เปิดเหงือกออกเพื่อทำความสะอาดผิวรากฟันและตกแต่งกระดูกให้เรียบ ช่วยให้เหงือกกลับมาแนบกับฟันและลดโอกาสกลับมาอักเสบซ้ำ

การผ่าตัดปลูกกระดูกเพื่อรักษาโรคปริทันต์อักเสบ (Bone Graft, Regenerative Therapy – Emdogain, GTR)

ในผู้ป่วยโรคปริทันต์อักเสบที่มีการสูญเสียกระดูกมาก สามารถใช้การผ่าตัดร่วมกับการปลูกกระดูกหรือสารกระตุ้นการงอกของเนื้อเยื่อ เช่น Emdogain หรือ GTR เพื่อฟื้นฟูกระดูกและเนื้อเยื่อที่สูญเสียไป ทำให้ฟันกลับมาแข็งแรงมากขึ้น

การผ่าตัดตกแต่งเหงือกเพิ่มความยาวฟันเพื่อความสวยงาม (Esthetic Crown Lengthening, Gingivectomy)

ใช้สำหรับผู้ที่มีรอยยิ้มเห็นเหงือกมาก (gummy smile) หรือมีฟันสั้นจากเหงือกปกคลุมมากเกินไป การผ่าตัดตกแต่งเหงือกหรือกระดูกจะช่วยเพิ่มความยาวตัวฟัน ทำให้รอยยิ้มดูสมดุลและสวยงามขึ้น

การผ่าตัดปลูกเหงือก/เพิ่มเหงือก (Free Gingival Graft, Connective Tissue Graft)

ในกรณีที่เหงือกร่นหรือมีปริมาณเหงือกบางเกินไป สามารถใช้วิธีการปลูกเหงือกหรือเพิ่มเหงือกด้วยเนื้อเยื่อจากเพดานปาก เพื่อเพิ่มความแข็งแรง ป้องกันการร่นเพิ่ม และช่วยให้รากฟันที่โผล่ได้รับการปกป้อง

การรักษาโรครอบรากฟันเทียม (Peri-implantitis Treatment)

รากฟันเทียมก็สามารถเกิดการอักเสบรอบๆ ได้เช่นกัน หากมีคราบสะสมและเหงือกรอบรากฟันเทียมติดเชื้อ การรักษาอาจรวมถึงการทำความสะอาดลึก การใช้เลเซอร์ การผ่าตัดตกแต่งเนื้อเยื่อ หรือการปลูกกระดูกใหม่เพื่อรักษารากฟันเทียมให้ใช้งานได้ต่อไป

การฟอกสีเหงือกด้วยเลเซอร์ (Laser Gum Depigmentation)

ในบางคนเหงือกมีสีคล้ำจากเม็ดสีเมลานิน การฟอกสีเหงือกด้วยเลเซอร์ช่วยลดความเข้มของสี ทำให้เหงือกดูชมพูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ โดยเป็นหัตถการที่เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว และให้ผลลัพธ์ที่ดูดีขึ้นชัดเจน

รายละเอียดการตรวจและการดูแล

ตรวจสุขภาพช่องปาก (Oral Examination)

ตรวจฟัน เหงือก เยื่อบุช่องปาก ข้อต่อขากรรไกร และการสบฟัน

ประเมินความเสี่ยงและวางแผนการรักษา (Risk Assessment & Treatment Planning)

ประเมินคราบจุลินทรีย์ การอักเสบของเหงือก และปัจจัยเสี่ยงเฉพาะบุคคล เช่น การสูบบุหรี่หรือโรคประจำตัว

เอกซเรย์ฟัน (Dental Radiographs)

ใช้เพื่อตรวจหาฟันผุที่มองไม่เห็น รอยโรคใต้เหงือก หรือการสูญเสียกระดูกปริทันต์

ขูดหินปูนและเกลารากฟัน (Scaling and Root Planing)

กำจัดแผ่นครบจุลินทรีย์ และคราบหินปูนที่สะสมบริเวณขอบเหงือกและในร่องเหงือก ช่วยให้เหงือกสุขภาพดี ลดการอักเสบ

การทาฟลูออไรด์ (Fluoride Therapy)

เสริมความแข็งแรงให้ฟัน ป้องกันฟันผุ โดยเฉพาะในเด็กและผู้ที่มีความเสี่ยงสูง

การให้คำแนะนำด้านสุขภาพช่องปาก (Oral Hygiene Instruction)

สอนวิธีแปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟัน เลือกอุปกรณ์เสริมที่เหมาะสม เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต

การตรวจมะเร็งช่องปาก (Oral Cancer Screening)

ตรวจหาความผิดปกติของเยื่อบุช่องปาก เพื่อค้นหาความเสี่ยงในระยะแรกเริ่ม

แนะนำความถี่ในการตรวจที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

เช่น ทุก 6 เดือน สำหรับผู้ที่มีโรคเหงือก หรือทุก 12 เดือนสำหรับผู้ที่สุขภาพปากดี

การติดตามผลอย่างต่อเนื่อง

เพื่อให้แน่ใจว่าการรักษาและการป้องกันได้ผล

การปรับคำแนะนำตามวัยและสภาวะสุขภาพ

เช่น เด็ก วัยทำงาน หรือผู้สูงอายุ

✨ การดูแลพิเศษ

แนะนำความถี่ในการตรวจที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

เช่น ทุก 6 เดือน สำหรับผู้ที่มีโรคเหงือก หรือทุก 12 เดือนสำหรับผู้ที่สุขภาพปากดี

การติดตามผลอย่างต่อเนื่อง

เพื่อให้แน่ใจว่าการรักษาและการป้องกันได้ผล

การปรับคำแนะนำตามวัยและสภาวะสุขภาพ

เช่น เด็ก วัยทำงาน หรือผู้สูงอายุ

พร้อมเริ่มต้นแล้วหรือยัง?

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ